Last updated: 22 ส.ค. 2568 | 1076 จำนวนผู้เข้าชม |
1. เชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับอินเทอร์เน็ต
o หากใช้ Wi-Fi แนะนำให้อยู่ใกล้ตัวเราเตอร์
o ถ้าใช้สาย LAN จะได้ค่าที่เสถียรกว่า
2. เข้าเว็บไซต์หรือแอปสำหรับทดสอบความเร็ว
o เว็บยอดนิยม เช่น Speedtest.net หรือ Fast.com
o หรือจะโหลดแอป Speedtest/FAST บนมือถือก็ได้
o หรือจะเข้า Google แล้ว search คำว่า “internet speed test” ก็จะเจอลิงก์หน้าเว็บที่มีให้ทดสอบง่ายๆ มากมาย
3. กดปุ่ม “Go” หรือ “Start”
o ระบบจะทดสอบค่า ดาวน์โหลด (Download), อัปโหลด (Upload), และค่า Ping และบางที่จะมีค่า jitter หรือความสม่ำเสมอของสัญญาณด้วย
4. อ่านผลลัพธ์
o Download: ความเร็วในการรับข้อมูล เช่น ดูหนัง โหลดไฟล์
o Upload: ความเร็วในการส่งข้อมูล เช่น วิดีโอคอล อัปโหลดรูป/ไฟล์
o Ping: ความหน่วงในการรับ-ส่งข้อมูล ง่ายๆ ก็คือ เวลาที่สัญญาณเดินทางจากเครื่องของคุณไปถึงเซิร์ฟเวอร์ และกลับมาเป็นคำตอบ วัดเป็นหน่วย มิลลิวินาที (ms) ค่า Ping ยิ่งต่ำ ยิ่งดี
ถ้ามากกว่า 100 ms หรือ 0.1 วินาทีจะไม่เหมาะกับการเล่นเกมออนไลน์ หรือประชุมออนไลน์
ต่ำกว่า 20 ms หรือ 0.02 วินาที ถือว่าดีมากเล่นเกม วิดีโอคอล และทำงานแบบเรียลไทม์ได้
o Jitter : ค่าความนิ่ง หรือความสม่ำเสมอของสัญญาณอินเทอร์เน็ต หรือค่าการแกว่งขึ้นๆ ลงๆ ของค่า Ping ยิ่งค่า Jitter ต่ำ แสดงว่า สัญญาณเสถียรมาก ซึ่งค่า Jitter สูงจะทำให้เวลาประชุมออนไลน์เสียงขาดๆ หายๆ หรือเล่นเกมแล้วรู้สึกแลคเป็นพักๆ หรือถ้าดูหนังแบบสตรีมมิ่งจะมีอาการกระตุกเป็นช่วงๆ
ถ้ามากกว่า 50 ms จะกระทบต่อการใช้งาน
ถ้าต่ำกว่า 20ms ถือว่าดี เสถียรมาก
16 ก.ย. 2568
29 ก.ค. 2568